วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2555

ความเป็นมาของไฟฟ้ากับมนุษย์


มนุษย์เรารู้จักไฟฟ้ามานานกว่า 2,000 ปีแล้ว แต่ไม่มีใครบอกได้ว่ามันคืออะไร ทราบแต่เพียงว่ามันคือพลังงานรูปหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนพลังงานกลเป็นพลังงานความร้อน แสง และเสียง เป็นต้น ตามประวัติศาสตร์กล่าวว่านักวิทยาศาสตร์ชาวกรีกชื่อเทเลส (Theles) เกิดอยู่ในระหว่างก่อนปี พ.ศ. 3-81 ได้นำแท่งอำพันมาขัดสีกับผ้าขนสัตว์ แท่งอำพันที่เกิดความร้อนขึ้นนั้นจะมีอำนาจดูดสิ่งของเบาๆได้ เช่น ผม กระดาษชิ้นเล็กๆ เป็นต้น จึงได้ตั้งชื่อเป็นภาษากรีกว่า อิเล็กตรอน (Electron)
          ต่อจากนั้นมาประมาณ 2,000 ปี คือราว พ.ศ. 2148 ดร.กิลเบอร์ต (Dr.Gillbert) เป็นชาวอังกฤษ ได้รื้อฟื้นหลักการของไฟฟ้าสถิตของเทเลส โดยนำเอาผ้าแพรผ้าขนสัตว์มาถูกับแท่งแก้ว แท่งยางสน แท่งกำมะถัน และนำไปทดลองดูดของเบาๆ ได้รับผลสำเร็จเช่นเดียวกันจึงได้ตั้งชื่อไฟฟ้าที่เกิดขึ้นใหม่ว่าไฟฟ้า (Electricity) จากคำนี้เองได้นำมาใช้จนถึงปัจจุบัน


            วัตถุทุกชนิดที่อยู่บนโลก เมื่อมองอย่างผิวเผินจากภายนอก สามารถบอกได้ว่ามีความแตกต่างกัน การมองอย่างไม่มีการศึกษาวิเคราะห์วิจัย จะไม่สามารถบอกได้ว่าวัตถุเหล่านั้นแตกต่างกันเพราะอะไร แต่ถ้ามองอย่างรอบคอบและทำการศึกษาวิเคราะห์วิจัยไปพร้อมๆกันก็จะพบว่าวัตถุต่างๆที่อยู่บนโลกมีความแตกต่างกันเพราะโครงสร้างส่วนเล็กๆ ที่รวมตัวกันขึ้นมาเป็นวัตถุเหล่านั้นแตกต่างกัน แต่พบว่าภายในโครงสร้างวัตถุเหล่านั้น มีส่วนประกอบที่รวมตัวขึ้นมาเป็นวัตถุมีลักษณะเหมือนกันคือมี โมเลกุล อะตอม นิวเคลียส นิวตรอน โปรตอน และอิเล็กตรอนเหมือนกัน 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น