วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2555

อะตอม


จากการศึกษาโครงสร้างภายในของวัตถุหรือสสารต่างๆ พบว่ามีส่วนประกอบเล็กๆของวัตถุหรือสสารเหมือนกัน โดยเมื่อทำการแยกวัตถุหรือสสารออกให้เหลือส่วนเล็กๆ จะได้โมเลกุลแยกออกอีกได้อะตอม นำอะตอมมาแยกออกอีกได้ นิวเคลียสและอิเล็กตรอนภายในนิวเคลียสยังประกอบด้วยนิวตรอนและโปรตอน โครงเหล่านี้เล็กมากจนไม่สามารถมองได้ด้วยตาเปล่า เหมือนกับเชื้อโรค การมองต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ขยายเป็นพันล้านเท่าจึงจะมองเห็นอะตอมได้
            การแยกน้ำออกเป็นส่วนประกอบเล็กๆ เมื่อนำสสารเช่นน้ำมาแยกออกจนเหลือส่วนที่เล็กที่สุดที่ยังคงคุณสมบัติของสสารนั้นอยู่ เรียกส่วนนี้ว่า โมเลกุล (Molecule) เช่น น้ำเมื่อแยกให้เหลือส่วนที่เล็กที่สุดของน้ำที่ยังแสดงให้เห็นว่ายังเป็นน้ำอยู่ เรียกว่า โมเลกุลของน้ำ แต่โมเลกุลยังไม่ใช้ส่วนที่เล็กที่สุดจริง เพราะภายในโมเลกุลยังมีส่วนที่เล็กกว่าประกอบรวมกันอยู่ เมื่อแยกโมเลกุลให้เป็นส่วนย่อยลงไปอีก จะได้อะตอม (Atom) โดยถือว่าอะตอมเป็นส่วนที่เล็กที่สุดของสสาร การแยกสสารถึงอะตอมแล้ว สภาพของสสารนั้นจะเปลี่ยนแปลงไป ไม่คงสภาพของสสารเดิม เช่น น้ำในขณะเป็นโมเลกุล ยังบอกได้ว่านั้นคือน้ำ แต่ในขณะที่เป็นอะตอมไม่สามารถบอกได้ว่านั้นคือน้ำ กลายเป็นอะตอมของไฮโดรเจน (H) และอะตอมของออกซิเจน (O) เพราะโครงสร้างของน้ำประกอบขึ้นจากการรวมตัวของไฮโดรเจน และออกซิเจน โดยมีไฮโดเจนสองอะตอมและออกซิเจนหนึ่งอะตอม รวมกันขึ้นเป็นน้ำหนึ่งโมเลกุล ในวัตถุหรือสสารต่างๆ แต่ละโมเลกุลมีส่วนประกอบของอะตอมธาตุแตกต่างกัน


เมื่อนำอะตอมของวัตถุหรือสสารต่างๆ มาทำการวิเคราะห์ พบว่าส่วนประกอบของโครงสร้างอะตอม ภายในประกอบด้วยนิวเคลียส (Nucleus) อยู่ตอนกลางของอะตอมจะหยุดนิ่งอยู่กับที่ ภายในนิวเคลียสมีส่วนประกอบของประจุไฟฟ้าบรรจุอยู่คือ โปรตอน (Proton) มีประจุไฟฟ้าเป็นบวก (+) และนิวตรอน (Neutron)  ไม่มีประจุไฟฟ้า ถือว่าเป็นกลางทางไฟฟ้า ส่วนรอบๆนิวเคลียสมีอิเล็กตรอนวิ่งเคลื่อนที่วนรอบนิวเคลียส อิเล็กตอนมีประจุไฟฟ้าเป็นลบ (-)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น